ไขข้อสงสัย ทำไมต้องเลือก รถยกหรือรถสไลด์ หากรถเสียบนท้องถนน
เคยไหมเวลารถยนต์เสียกลางทาง รถยนต์แบตหมดสตาร์ทไม่ติด หรือกรณีรถยนต์เกิดอุบัติเหตุได้รับความเสียหายไม่ว่าจะเป็นการเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ จนกระทั้งอุบัติเหตุใหญ่จนทำให้รถเสียหายไม่สามารถขับเคลื่อนออกไปได้ แต่จะให้ซ่อมแซมรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายกันบนถนนหรือกลางถนนคงจะเป็นไปได้ยาก วิธีที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการเรียกใช้บริการรถยกหรือรถสไลด์ มาช่วยเคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นการช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดจากการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อนำรถคันที่เสียหายไปเข้าศูนย์ หรือเข้าอู่สำหรับการซ่อมแซมต่อไป
การใช้บริการรถยกหรือรถสไลด์ จำเป็นต้องใช้ทีมช่างที่มีความชำนาญหรือมีความเป็นมืออาชีพโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจก่อให้เกิดต่อตัวรถได้ หลายท่านคงเคยเห็นและรู้จักรถยกหรือรถสไลด์ มากันบ้างแล้ว แต่จะมีความแตกต่างกันอย่างไรนั้นเรามาดูกันเลย..
รถลากหรือรถยก VS รถสไลด์ แตกต่างกันอย่างไร
1. รถลาก เรียกอีกอย่างได้ว่า รถยก คือ รถบริการช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายรถที่เสียหรือเกิดอุบัติเหตุ โดยใช้วิธียกรถขึ้นบางส่วน ไม่ได้บรรทุกทั้งคันเหมือนรถสไลด์
ลักษณะการทำงานของรถยก
ยกรถด้านหน้า แล้วให้ล้ออีกฝั่งหนึ่งกลิ้งไปตามพื้นถนน
เหมาะกับรถที่ยังอยู่ในสภาพเคลื่อนย้ายได้บ้าง (เช่น ล้อหมุนได้)
ใช้งานทั่วไป เช่น เคลื่อนย้ายรถเสีย รถสตาร์ทไม่ติด หรือรถเกิดอุบัติเหตุ
ข้อดี
โดยหากเป็นงานเคลื่อนย้ายโดยทั่วไปราคาค่าบริการมักถูกกว่ารถสไลด์
เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้ายในระยะทางสั้น งานรถอุบัติเหตุชนหน้าหนัก งานในอาคารที่รถสไลด์เข้าไม่ถึง เช่น ลานจอดรถใต้ห้างสรรพสินค้า หรืออาคารจอดรถบนคอนโด นอกจากนี้ยังเหมาะกับงานล้อล็อคแต่ต้องใช้คู่อุปกรณ์ล้อเสริม ช่วยเคลื่อนย้ายรถไฟฟ้าหรือรถยุโรปรุ่นใหม่ๆที่ล้อขยับไม่ได้ ได้คล่องตัวกว่างานรถสไลด์
ข้อจำกัด
ถ้าเป็นรถโหลดต่ำ รถสปอร์ต อาจไม่เหมาะสมเพราะเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายเพิ่มเติม
การวิ่งระยะไกลไม่สะดวกเท่ารถสไลด์
เหมาะสำหรับ : ใช้ลากรถยนต์ในกรณีที่เสียกลางทาง แบตหมดสตาร์ทไม่ติด และศูนย์ซ่อม หรืออู่ซ่อมต้องอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก
2.รถสไลด์ เป็นรถที่ได้รับการออกแบบและดัดแปลงเป็นพิเศษสำหรับทำเป็นรถสไลด์ อาจมีการดัดแปลงมาจากรถบรรทุก 6 ล้อหรือรถบรรทุก 10 ล้อ เป็นต้น
ลักษณะการทำงานของรถสไลด์
รถสไลด์ให้บริการโดยการนำรถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุมาบรรทุกวางไว้บนรถบนถาดสไลด์ซึ่งเป็นการวางไว้ได้ทั้งคัน และมีระบบล็อคแบบพิเศษเป็นการล็อครถยนต์ติดกับถาดบนสไลด์โดยตรง เพื่อไม่ให้รถยนต์ที่อยู่ด้านบนเคลื่อนไหวหรือตกขณะทำการเคลื่อนย้าย
รถสไลด์จะทำหน้าที่บรรทุกรถยนต์ที่เสียหายไปตลอดทางจากจุดเกิดเหตุไปยังศูนย์ซ่อม หรืออู่ซ่อมโดยไม่จำเป็นต้องลาก เนื่องจากการลากอาจทำให้ช่วงล่างของรถยนต์เกิดการกระแทกจนได้รับความเสียหาย ซึ่งการใช้รถสไลด์ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นขณะเคลื่อนย้ายรถยนต์ได้ และยังมีความปลอดภัยสูงในการเคลื่อนย้ายอีกด้วย
ข้อดี
ปลอดภัยสูง รถไม่สัมผัสพื้น ลดความเสี่ยงเกิดความเสียหาย
เหมาะสำหรับ รถหรู, รถสปอร์ต, รถโหลดเตี้ย, รถบิ๊กไบค์, รถเสียหนัก หรือรถอุบัติเหตุ
สามารถวิ่งระยะทางไกลได้สบาย
ข้อจำกัด
ค่าบริการสูงกว่ารถยก
ไม่เหมาะกับพื้นที่แคบๆเช่นในบริเวณบนอาคารหรือใต้ตึก หรืองานรถติดหล่มที่อยู่ที่พื้นที่ห่างไกล เฉอะแฉะ
ตารางเปรียบเทียบ รถยก vs รถสไลด์
คุณสมบัติ | รถยก | รถสไลด์ |
วิธีการเคลื่อนย้าย | ยกด้านหน้า/หลัง ลากไปกับพื้น |
บรรทุกขึ้นถาดไปทั้งคัน |
ความปลอดภัย |
ปานกลาง (ล้อสัมผัสถนน และต้องใช้วงเหลียวที่มากกว่า) | สูง (รถไม่สัมผัสพื้น) |
เหมาะกับรถ |
รถทั่วไป รถที่จอดในพื้นที่จำกัดความสูง รถที่อยู่ในพื้นที่ที่รถใหญ่เข้าไม่ถึง | รถหรู, รถสปอร์ต, รถโหลดเตี้ย, รถเสียหนัก |
ระยะทาง |
ระยะสั้น |
ได้ทั้งใกล้ไกล |
ค่าใช้จ่าย |
โดยทั่วไปประหยัดกว่า (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของหน้างาน) |
สูงกว่า แต่ปลอดภัยกว่า |
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้บริการรถยกหรือรถสไลด์
1.ด้านความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ ควรศึกษาและหาข้อมูลเบื้องต้นของบริษัทหรือผู้ให้บริการรถยกหรือรถสไลด์ก่อนเรียกใช้บริการ ควรเลือกบริษัทหรือผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีการจดทะเบียนบริษัทหรือมีข้อมูลอ้างอิงที่เชื่อถือได้ เช่น สถานที่ตั้งบริษัท สามารถติดต่อได้ง่ายกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือการรีวิวจากลูกค้าที่มาใช้บริการ เป็นต้น
2.ด้านความรวดเร็วในการให้บริการ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินการโทรประสานงานเรียกใช้บริการรถยกหรือรถสไลด์ต้องมีความรวดเร็ว ตรงต่อเวลาไม่ล่าช้าทันต่อสถานการณ์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก คลายความกังวลใจ สร้างความสบายใจและความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการ ซึ่งการให้บริการที่รวดเร็วช่วยสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการได้เป็นอย่างมาก
3.ด้านความเอาใจใส่ในการให้บริการ ควรมีการติดต่อประสานงานกันอย่างต่อเนื่องระหว่างการเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อไม่ให้เกิดการสื่อสารผิดหรือการสื่อสารคลาดเคลื่อน ทำให้รถยกหรือรถสไลด์มาถึงจุดเกิดเหตุล่าช้า รอนานจนเกินไป
4.ด้านราคาและค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ ควรศึกษาหาข้อมูลด้านราคาและค่าบริการรถยกหรือรถสไลด์เอาไว้บ้าง หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้มีเบอร์โทรศัพท์ ชื่อบริษัทหรือชื่อผู้ให้บริการที่สามารถติดต่อและประสานงานได้อย่างทันท่วงที ควรมีการตกลงราคาค่าบริการที่ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกก่อนการให้บริการ ไม่ควรให้ผู้บริการนำรถของคุณเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุโดยไม่มีการตกลงเรื่องค่าบริการกันก่อน เนื่องจากการตกลงเรื่องค่าบริการหลังจากที่เคลื่อนย้ายรถออกไปแล้วนั้นอาจเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าที่ควรจะเป็นได้ และควรให้ลูกค้าชำระเงินหลังรับบริการเสร็จเรียบร้อยแล้วเพื่อป้องกันการถูกหลอก หรือถูกโกงที่อาจเกิดขึ้นได้
5.ด้านการรับประกันความเสียหาย บางบริษัทหรือบางผู้ให้บริการรถยกหรือรถสไลด์จะมีระบบรับประกันการเกิดอุบัติเหตุหรือรับประกันความเสียหายที่อาจขึ้นกับรถยนต์ให้อีกด้วย ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการว่ารถยนต์จะไม่เกิดความเสียหายในระหว่างที่เคลื่อนย้ายไปยังศูนย์ซ่อม หรืออู่ซ่อมรถนั่นเอง
สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการรถยกหรือรถสไลด์
ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นอุบัติเล็กน้อยหรืออุบัติเหตุรุนแรงย่อมเกิดความเสียหายและมีค่าใช้จ่ายตามมาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดก็ตาม กรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหายอย่างหนักจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เกิดเหตุไปได้นั้นจึงต้องเรียกใช้บริการรถยกหรือรถสไลด์ ซึ่งการช่วยเหลือแต่ละแบบมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป จึงควรเลือกการให้บริการที่เหมาะสมสำหรับรถของคุณเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือตรงตามความต้องการ สะดวก รวดเร็ว และช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็นได้อีกด้วย ก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการรถยกหรือรถสไลด์นั้น เราควรวิเคราะห์ถึงเหตุผลในการเลือกใช้บริการก่อน ซึ่งสามารถพิจารณาปัจจัยต่างๆ ได้ดังต่อไปนี้
1.ความเสียหายของรถยนต์มากน้อยเพียงใด
เมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วอันดับแรกที่ต้องคำ คือ ตั้งสติแล้วลองประเมินสถานการณ์ของรถยนต์ หากรถยนต์ของคุณยังสามารถเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่เกิดเหตุได้ก็สามารถเลือกใช้บริการรถลากหรือรถยกแทนได้ แต่การใช้รถยกนั้นต้องยอมรับเรื่องความเสียหายที่อาจขึ้นกับช่วงล่างของรถยนต์ อาจเกิดการสึกหรอหรือเสื่อมสภาพขณะเคลื่อนย้ายตามมาด้วย แต่หากคุณประเมินดูแล้วว่ารถยนต์มีความเสียหายค่อนข้างหนัก รถสตาร์ทไม่ติดหรือไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถออกจากพื้นที่ได้ การเลือกใช้รถสไลด์จึงเหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด เนื่องจากใช้วิธีการยกรถคันที่เกิดเหตุขึ้นบรรทุกไว้บนด้านหลังรถสไลด์นั่นเอง ซึ่งมีความปลอดภัยเป็นอย่างมากและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรถยนต์เพิ่มอีกด้วย2. งบประมาณที่ตั้งไว้
อัตราค่าบริการในแต่ละครั้งของรถยก คิดคำนวณจากระยะทางที่ไปจนถึงจุดหมาย มีค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,500 -3,200 บาทโดยประมาณ และรถสไลด์ คิดค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,800 3,500 บาทโดยประมาณ แต่หากศูนย์ซ่อม หรืออู่ซ่อมรถมีระยะทางไกลเกินกว่าที่ผู้ให้บริการกำหนดก็จะมีการคิดเพิ่มตามระยะทาง ซึ่งหากงบประมาณของคุณมีอยู่อย่างจำกัด ควรเลือกวิธีการใช้รถลากหรือรถยก แทนการใช้รถสไลด์จะดีกว่า เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยเกินความจำเป็นได้
3. ระยะทางของศูนย์ซ่อม หรืออู่ซ่อมใกล้หรือไกลเพียงใด
ควรเช็คศูนย์ซ่อม หรืออู่ซ่อมที่ให้บริการซ่อมแซมรถยนต์อยู่ใกล้หรือห่างไกลจากจุดเกิดเหตุมากน้อยเพียงใด หากอยู่ไกลเกิน 20 กิโลเมตร ควรใช้บริการรถสไลด์เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้กับช่วงล่างของรถยนต์ขณะเคลื่อนย้ายได้ แต่หากศูนย์ซ่อม หรืออู่ซ่อมอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนักควรใช้บริการรถลากหรือรถยกแทน เนื่องจากง่ายและสะดวกในการเคลื่อนย้าย รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าอีกด้วย
4. ความปลอดภัยของรถยนต์
หากคุณเป็นผู้ที่รักและดูแลเอาใจใส่รถยนต์เป็นพิเศษการเลือกใช้บริการรถสไลด์เรียกได้ว่าตอบโจทย์และตรงกับความต้องการมากที่สุด เนื่องจากรถสไลด์มีความปลอดภัยสูงมากในการเคลื่อนย้ายรถจากจุดเกิดเหตุ และไม่ทำให้ช่วงล่างของรถยนต์ได้รับความเสียหาย เกิดอุบัติเหตุ เกิดการสึกหรอหรือเสื่อมสภาพขณะเคลื่อนย้าย ซึ่งการใช้รถสไลด์ มีความปลอดภัยสูงและมีการบริการที่ดีย่อมแลกมากับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน หากคุณไม่ได้ซีเรียสเรื่องความปลอดภัยมากนัก การใช้วิธีลากรถหรือรถยกก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจเช่นกัน
5. การติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่หรือผู้ให้บริการง่าย สะดวก
การติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่หรือผู้ให้บริการรถยกหรือรถสไลด์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากการโทรศัพท์แจ้งความประสงค์ใช้บริการรถยกหรือรถสไลด์ต้องมีการติดต่อประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารบอกตำแหน่งพื้นที่เกิดเหตุให้รถยกหรือรถสไลด์เดินทางมายังจุดเกิดเหตุได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ถ้าเป็นทีมช่างในพื้นที่ก็จะมีความชำนาญด้านเส้นทางเป็นอย่างดี แต่หากมีการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนหรือบอกตำแหน่งไม่ถูกต้องอาจทำให้รถยกหรือรถสไลด์มาถึงจุดเกิดเหตุล่าช้าได้
6. บริการรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์
เมื่อโทรประสานงานเรียกใช้บริการรถยกหรือรถสไลด์ไปแล้วนั้นต้องมาถึงจุดเกิดเหตุด้วยความรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้รอนานจนเกินไป และระหว่างการเดินทางมาคนขับต้องสามารถติดต่อได้ ถ้าทีมงานผู้ให้บริการรถยกหรือรถสไลด์มีการบริการที่ดี มาถึงที่เกิดเหตุที่รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ก็จะช่วยให้การจราจรที่ติดขัดขณะเกิดอุบัติเหตุคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
7. ทีมงานบริการอย่างมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญ และความชำนาญ
ทีมงานผู้ให้บริการรถยกหรือรถสไลด์ ต้องมีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ และความชำนาญ เป็นทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ มีความรอบรู้สามารถตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังสามารถจัดการกับปัญญาหน้างานได้เป็นอย่างดี เด็ดขาดและทันท่วงที พร้อมช่วยหาวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ทันเวลา
ขอขอบคุณแหล่งที่มาอ้างอิง
หากรถเสียใช้รถยก หรือรถลาก ต่างกันอย่างไร?. เว็บไซต์ www.bolttech.co.th
รถยก vs รถลาก ต่างกันอย่างไร สถานการณ์ไหน ควรเรียกใช้อะไรดี?. เว็บไซต์ www.viriyah.com
เข้าใจความแตกต่างระหว่าง รถลาก vs รถสไลด์ และรถขนย้ายชนิดใดเหมาะกับรถยนต์คุณ. เว็บไซต์ www.khaosod.co.th
การเลือกใช้รถยกดีกับรถยนต์ของเราอย่างไร?. เว็บไซต์ www.th.carro.co/blog
ทำความรู้จัก รถสไลด์ รถที่ช่วยคุณแก้ปัญหาได้ในยามคับขัน. เว็บไซต์ www.bangkok-today.com