5 ตัวอย่าง งานแบบไหนที่เหมาะกับรถยก รถลาก ที่รถสไลด์ทำไม่ได้
เวลาเราพูดถึง รถยก รถลากหลายคนอาจจะนึกถึงภาพรถที่มายกรถเสียบนถนนแล้วลากไปซ่อม จริงๆ แล้วรถยกมีบทบาทมากกว่านั้นเยอะเลย และก็มีหลายสถานการณ์ที่ รถยกเหมาะกว่า รถสไลด์ เพราะทำงานได้คล่องตัวกว่า เข้าพื้นที่ง่ายกว่า หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่า
วันนี้ผมจะเล่าให้ฟังแบบง่ายๆ ว่า งานแบบไหนบ้างที่รถยกเหมาะสุดๆ เผื่อวันหนึ่งคุณเจอสถานการณ์แบบนี้ จะได้ตัดสินใจเรียกใช้บริการได้ถูกครับ
1. รถเสียบริเวณลานจอดบนอาคาร หรือชั้นใต้ดิน
ลองนึกภาพนะครับ รถเสียอยู่ในที่จอดรถห้าง ชั้นใต้ดิน หรือบนลานจอดชั้นสูงๆ ที่มีความสูงจำกัด รถสไลด์ส่วนใหญ่เข้าไปไม่ได้ เพราะตัวรถใหญ่ กินพื้นที่เยอะ
กรณีแบบนี้ รถยกคือพระเอก เลยครับ เพราะตัวรถมีขนาดเล็กกว่า เข้าซอก เข้าซอย หรือเข้าในอาคารได้ง่ายกว่า สามารถยกรถที่เสียขึ้นได้แล้วลากออกมาจากพื้นที่แคบๆ พอถึงจุดกว้างค่อยเปลี่ยนไปใช้รถสไลด์ต่อก็ยังได้
2. งานอุบัติเหตุหนัก เช่น เพลาปีกนกหัก หน้าชนยับ ล้อบิด
บางครั้งรถเสียหายหนักจนแทบจะลากไม่ไหว อย่างเช่น ล้อบิด เพลาปีกนกหัก หรือหน้าชนยับ รถสไลด์อาจดูเป็นทางเลือกที่ดี แต่จริงๆ แล้วขั้นตอนการเอารถขึ้นสไลด์ค่อนข้างซับซ้อน ใช้เวลาเยอะ
ถ้าเรียกรถยกมา บางกรณีง่ายกว่ามากครับ แค่ยกด้านหน้าแล้วลากไปได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาจัดรถขึ้นถาดรถสไลด์ ช่วยให้เคลียร์พื้นที่หน้างานได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่รถเสียอยู่กลางถนนที่มีการจราจรหนาแน่น
3. งานล้อล็อค เช่น รถยุโรปหรือรถไฟฟ้า
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า รถบางรุ่น โดยเฉพาะ รถยุโรป หรือรถไฟฟ้า เวลาเกิดเหตุขัดข้อง ระบบอัตโนมัติอาจทำการล็อคล้อไว้ ไม่สามารถเข็นได้เหมือนรถทั่วไป แบบนี้เป็นปัญหาเลยครับ เพราะถ้าล้อไม่หมุน จะเอาขึ้นสไลด์ก็ยาก
แต่ไม่ต้องห่วงครับ รถยกสามารถใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า ล้อเสริม หรือ โดลลี่ มาช่วยช้อนล้อให้ลอยขึ้นจากพื้น แล้วลากออกไปได้อย่างปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้รถยกเหมาะกับงานแบบนี้สุดๆ
4. งานรถติดหล่ม พื้นที่ที่รถใหญ่เข้าไม่ถึง
เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด ขึ้นเขา ลงห้วย หรือเจอเส้นทางลูกรัง บางครั้งรถอาจติดหล่มจนไปต่อไม่ได้ ปัญหาคือ รถสไลด์เข้าไม่ถึง เพราะพื้นที่แคบและพื้นผิวไม่เอื้ออำนวย
รถยกจะสะดวกกว่ามากครับ เพราะขนาดเล็ก คล่องตัว สามารถเข้าไปถึงจุดที่รถติดหล่มได้ แล้วค่อยช่วยยกรถหรือดึงออกมา เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่รถยกตอบโจทย์ได้ดีกว่ารถสไลด์แน่นอน
5. งานรถขนาดใหญ่ เช่น รถทัวร์ รถหัวลาก
บางคนอาจไม่รู้ว่ารถสไลด์ก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาเจอ รถขนาดใหญ่ อย่างรถทัวร์ รถบรรทุก หรือรถหัวลาก ที่น้ำหนักและขนาดเกินกว่าที่รถสไลด์จะรับได้
กรณีแบบนี้ต้องใช้ รถยกขนาดใหญ่ (Heavy Duty Tow Truck) เท่านั้นครับ รถยกประเภทนี้ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับงานหนัก สามารถยกและลากรถขนาดใหญ่ออกไปซ่อมได้อย่างปลอดภัย เรียกว่าถ้าเจองานใหญ่ๆ ต้องพึ่งรถยกอย่างเดียวเลย
สรุป
จริงๆ แล้วทั้งรถยกและรถสไลด์ต่างก็มีหน้าที่ของตัวเองครับ อยู่ที่ว่าสถานการณ์ตอนนั้นเหมาะกับแบบไหน แต่จากที่เล่ามาจะเห็นว่า รถยกยังจำเป็นและเหมาะกับงานหลายรูปแบบ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่แคบ รถล้อล็อค รถติดหล่ม หรือรถขนาดใหญ่
ดังนั้นถ้าเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นแล้วหากคุณไม่แน่ใจว่าควรเรียกรถยกหรือรถสไลด์ดี โทรปรึกษาผู้ให้บริการเลยดีที่สุด เพราะทีมงานจะช่วยแนะนำให้เหมาะกับสถานการณ์จริงของคุณ และที่สำคัญที่สุดคือ ช่วยให้คุณกับรถปลอดภัย กลับบ้านได้อย่างอุ่นใจครับ ติดต่อมาได้ที่ www.24carspeed.com หรือโทรมาที่เบอร์ 086-086-5665 ยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
สรุปบทความ
งานแบบไหนที่เหมาะกับรถยก รถลาก?
หลายคนมักสับสนว่าควรเรียกรถยกหรือรถสไลด์ดี จริงๆ แล้วรถยกก็มีหน้าที่เฉพาะตัว และเหมาะกับหลายสถานการณ์ที่รถสไลด์อาจเข้าไม่ถึง1.รถเสียในลานจอดอาคาร/ชั้นใต้ดิน รถยกเข้าได้ง่ายกว่า เพราะขนาดเล็ก คล่องตัว
2.อุบัติเหตุหนัก ล้อบิด เพลาขาด ยกหน้าลากได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาขึ้นสไลด์
3.รถล้อล็อค เช่น รถยุโรป/รถไฟฟ้า ใช้อุปกรณ์ช้อนล้อช่วยเคลื่อนย้ายได้
4.รถติดหล่ม/พื้นที่แคบ รถยกเข้าถึงง่ายกว่ารถสไลด์
5.งานขนาดใหญ่ รถทัวร์ รถหัวลาก ต้องใช้รถยกขนาดใหญ่โดยเฉพาะ
สรุปง่ายๆ ถ้าไม่แน่ใจว่าควรเรียกรถยกหรือรถสไลด์ โทรปรึกษาทีมงานมืออาชีพไว้ก่อนดีที่สุด ทั้งสะดวก ปลอดภัย และได้คำแนะนำตรงกับสถานการณ์จริงแน่นอนครับ ติดต่อมาได้ที่ www.24carspeed.com หรือโทรมาที่เบอร์ 086-086-5665 ยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น